- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
บทความ
หลอดไฟธรรมดา
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดา หรือ หลอดความร้อน หรือ หลอดไส้ ( อังกฤษ : incandescent light bulb, incandescent lamp หรือ incandescent light globe ) ให้แสงสว่างโดยการให้ความร้อนแก่ไส้หลอดที่เป็นลวดโลหะกระทั่งมีอุณหภูมิสูงและ เปล่งแสง หลอดแก้วที่เติม แก๊สเฉื่อย หรือเป็น สุญญากาศ ป้องไม่ให้ไส้หลอดที่ร้อนสัมผัสอากาศ ใน หลอดฮาโลเจน กระบวนการทางเคมีคืนให้โลหะเป็นไส้หลอด ซึ่งขยายอายุการใช้งาน หลอดไฟฟ้านี้ได้รับกระแสไฟฟ้าจากเทอร์มินอลต่อสายไฟ (feed-through terminal) หรือลวดที่ฝังในแก้ว หลอดไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้ในเต้ารับซึ่งสนับสนุนหลอดไฟฟ้าทางกลไกและเชื่อมกระแสไฟฟ้าเข้ากับเทอร์มินัลไฟฟ้าของหลอด หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดาผลิตออกมาหลายขนาด กำลังส่องสว่าง และอัตราทนความต่างศักย์ ตั้งแต่ 1.5 โวลต์ ถึงราว 300 โวลต์ หลอดประเภทนี้ไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ควบคุมภายนอก มีค่าบำรุงรักษาต่ำ และทำงานได้ดีเท่ากันทั้งไฟฟ้ากระแสสลับหรือกระแสตรง ด้วยเหตุนี้ หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดาจึงใช้กันอย่างกว้างขวางในครัวเรือนและไฟฟ้าใช้ในเชิงพาณิชย์ ตลอดจนไฟฟ้าแบบพกพา อย่างเช่น ไฟตั้งโต๊ะ ไฟหน้า รถยนต์ และ ไฟฉาย และไฟฟ้าสำหรับตกแต่งและ
การประหยัดพลังงานแสงสว่าง
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
หลักการพื้นฐานของเทคโนโลยี การออกแบบระบบแสงสว่างของบ้านพักอาศัย จะคำนึงถึงคุณภาพหรือประสิทธิภาพของแสงและลักษณะการใช้งานเป็นหลักเช่น >> การใช้แสงเพื่อตกแต่งและสร้างบรรยากาศภายในบ้าน ซึ่งอาจไม่ต้องการความสว่างมากนัก แต่จะเน้นที่ความสวยงามเป็นหลัก >> การใช้แสงสว่างในห้องทำงาน ซึ่งต้องการแสงที่มีความสม่ำเสมอและมีปริมาณความสว่างมากพอสมควร ตลอดจนมีมุมของแสงและการกระจายแสงที่เหมาะสมกับการใช้งาน >> การใช้แสงสว่างบริเวณทางเดิน ซึ่งต้องการความสว่างไม่มากนัก >> การใช้แสงสว่าง ควรพิจารณาใช้แสงสว่างจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด การประหยัดพลังงานในระบบแสงสว่าง >> ในช่วงเวลากลางวัน การใช้แสงจากธรรมชาติจะเพื่อลดภาระในการส่องสว่างภายในตัวบ้าน แต่สามารถใช้ได้ในบางพื้นที่เท่านั้น เช่นใช้แสงธรรมชาติแทนการเปิดหลอดแสงสว่าง เช่น ห้องครัว ห้องเก็บของ ห้องน้ำ ทางเดิน เป็นต้น เพราะมีความเข้มของการส่องสว่างสูงมากและไม่สม่ำเสมอ >> ใช้หลอดประหยัดพลังงาน เช่น หลอดผอม (หลอดฟลูออเรสเซนต์) ซึ่งประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไส้ 4-5 เท่า และมี